วิธีทำ |
1 |
ล้างไก่ให้สะอาด
แล้วสับเป็นชิ้นโต ๆ
ให้ได้ 12 ชิ้น คือ ขา 2 ชิ้น
สะโพก 2 ชิ้น หน้าอกตอนล่าง 2
ชิ้น หน้าอกตอนบนติดปีก 2
ชิ้น คอ 2 ชิ้น หลัง 2 ชิ้น |
2 |
ตำขิง
กระเทียม พริกแดง
ให้ละเอียด
เอามาคลุกกับไก่พร้อมด้วยเกลือและน้ำตาล
ยี่หร่าป่นละเอียด 4
ช้อนโต๊ะ อบเชยป่นละเอียด 2
ช้อนโต๊ะ
กานพลูป่นละเอียด 1 ช้อนชา
เม็ดในกระวาน 1 ช้อนโต๊ะ
ทุกอย่างผสมให้เข้ากัน
ใส่นมเปรี้ยวลงไปด้วย
ใบสะระแหน่ 1/2 ถ้วย
หอมเจียวในน้ำมันเนยจนเหลือ
1/2 ส่วน
หญ้าฝรั่นชงในน้ำร้อน
ทิ้งไว้ 5 นาที
แล้วตักเอาแต่หญ้าฝรั่น
คลุกกับไก่
จัดลงในหม้อแขกขนาดกว้าง 30
เซนติเมตร
โรยด้วยหอมเจียวกับใบสะระแหน่ที่เหลือ
ส่วนมันฝรั่งก็แช่ในน้ำหญ้าฝรั่นแล้วเรียงให้รอบหม้อไก่ |
3 |
การอบกลิ่นให้หอม
เขาจะใช้แป้งสาลีนวดกับน้ำจนนุ่มเหนียว
แล้วปั้นให้เป็นเบ้าหรือถ้วยเล็ก
ๆ โตประมาณ 4-5 เซนติเมตร
เอามาวางตรงกลางหม้อไก่
คีบถ่านแดง ๆ
ใส่ในเบ้าไก่สักก้อนหนึ่ง
แล้วเอาน้ำมันที่เจียวหอม
ราดบนถ่านไฟให้เกิดควันคลุ้ง
รีบปิดฝาหม้อ
เพื่อให้ไก่ได้อบควันเนย
อบไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง |
4 |
ตักน้ำ
4-5 ลิตร
ใส่หม้อพร้อมกับกานพลู
อบเชย กระวาน
ตั้งไฟให้เดือดพล่าน
ใส่ข้าวสารเก่า
ซึ่งซาวไว้ก่อนแล้วลงในหม้อประมาณ
5 นาที |
5 |
เปิดฝาหม้อไก่ที่อบไว้
เอาเบ้าหรือถ้วยที่ใส่ถ่านโรยเนยออก
ตักข้าวด้วยทัพพีที่มีรูขึ้นใส่เกลี่ยในหม้อไก่ให้ทั่ว
อย่าให้น้ำข้าวติดข้าวนะคะ
(ถึงได้ใช้ทัพพีมีรูไงล่ะ)
ราดข้าวด้วยน้ำชงหญ้าฝรั่น
กับน้ำมันเนยที่เจียวหอมเก็บน้ำมันไว้
1 ช้อนชา
ทีนี้ก็เอาเบ้าแป้งที่ใช้อบควันวางบนข้าวอีกทีหนึ่ง
ใส่ถ่านไฟก้อนใหม่ลงไป
เอาน้ำมันเนยที่ขยักไว้
ราดให้เกิดควัน
ปิดฝาอบข้าวไว้
ยาขอบหม้อด้วยแป้งสาลีนวดกับน้ำจนเหนียวนุ่ม
จะได้กันไม่ให้ไอน้ำออก |
6 |
ยกหม้อขึ้นตั้งไฟ
พอเดือดสักพักหนึ่ง
ราไฟข้างล่างให้เหลือเพียงรอบ
ๆ หม้อเล็กน้อย
นำถ่านไฟข้างล่างมาใส่บนฝาหม้อ
เพื่ออบ
ทิ้งไว้จนข้าวระอุและน้ำแห้งเอาถ่านและขี้เถ้าบนฝาหม้อออก
อย่าลืมเช็ดให้สะอาดแกะแป้งที่ขอบหม้อออก
เปิดฝาหม้อ
เอาเบ้าหรือถ้วยเล็ก ๆ
ที่ใช้อบควันออก
ใช้ไม้พายโยงหรือคุ้ยข้าวแล้วตักใส่ชามอ่างไว้
ตักเอาไก่และมันฝรั่งขึ้นจากหม้อพักไว้ |
7 |
คลุกข้าวกับน้ำมันและน้ำพริกก้นหม้อให้เข้ากันตักใส่จาน
เอาไก่และมันฝรั่งประดับ
รับประทานกับแตงกวาดองเปรี้ยว
ยิ่งถ้ามีแกงเปรี้ยวด้วย
ยิ่งอร่อยใหญ่เพราะเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย |
|
ข้าวบุหรี่
สูตรนี้
ถ้าใครทำเสร็จแล้ว
ตักใส่บาตรถวายพระ
อุทิศส่วนกุศลให้เจ้าของสูตรสักหน่อยก็ดีค่ะ
เพื่อรำลึกถึงพระคุณของอาจารย์ที่ล่วงลับไปแล้วค่ะ
|