วิธีทำ |
ข้าว
นำเอาข้าวหอมมะลิจำนวนพอเหมาะ
หุงข้าวแบบเช็ดน้ำจะดีที่สุด
เมื่อหุงข้าวให้สุกพอควรแล้วนำไปพักไว้ให้เย็นอยู่สักระยะแล้วจึงเทน้ำ
(ฝน) เย็นธรรมดาให้ท่วมข้าว
หลังจากนั้นก็เริ่มขัดข้าวให้หมดเมือกแล้วนำข้าวที่ขัดเรียบร้อยแล้วใช้ผ้าขาวบางห่อข้าวขัด
นำไปนึ่งในซึ้งประมาณ 10-15
นาที
ถ้าอยากได้ข้าวมีกลิ่นหอมก็ใช้ดอกมะลิปลอดสารเคมี
มีกลิ่นหอมใส่ลงในผ้าขาวบางห่อทิ้งไว้ประมาณ
1 คืน ก่อนนำไปใช้ |
น้ำ (น้ำแช่กับข้าว)
จะนิยมใช้น้ำฝนไปต้มให้เดือดแล้วปล่อยทิ้งไว้ให้เย็น
แล้วนำเทียนอบด้วยควันเทียนประมาณ
3 วัน ก่อนใช้
และแต่ละวันจะอบควันเทียนสัก
2-3 ควัน
จะเพิ่มให้น้ำหอมชวนชิม |
เครื่องแกล้ม
1. ไชโป๊ผัดหวาน
เริ่มผัดส่วนแรกด้วยน้ำตาลมะพร้าว
หรือ น้ำตาลอ้อย
ผสมเกลือเล็กน้อยเคี่ยวจนเหนียว
ส่วนที่ 2
เทน้ำมันปาล์มลงกระทะเล็กน้อย
ผัดไชโป๊ที่ล้างแล้วสัก 2
น้ำ
ทิ้งให้แห้งจึงนำไปผัดเคล้าน้ำมันให้เข้ากันดีแล้วจึงตามด้วยน้ำตาลเคี่ยวไว้ในตอนแรก
เมื่อนำส่วนผสมลงในกระทะผัดให้เข้ากันปรุงรสหวานให้เข้มข้นหน่อย
บางทีควรชิมหลังจากเอากระทะทิ้งไว้สักพัก
เพราะรสชาติขณะอยู่ในกระทะและเอาลงมา
อาจจะมีรสไม่เหมือนกัน
ถ้าชิมแล้วรสชาติยังไม่เข้มข้นพอ
ก็อาจจะเติมได้ตามความเหมาะสม |
2.
ปลาผัดหวาน นำปลาโอ
หรือปลาซาดีน
มาทำความสะอาดด้วยเกลือ
เพื่อช่วยขจัดกลิ่นคาวโดยเฉพาะบริเวณพุงปลา
ควรใส่เกลือมากหน่อยจะช่วยลดกลิ่นคาวได้ดี
หลังจากนั้นใช้น้ำส้มเจือจาง
ใส่แช่เนื้อปลาช่วยลดกลิ่นคาว
ทิ้งไว้ไม่นานนัก
ก็ล้างด้วยน้ำส้มสายชูออกให้สะอาดแล้วจึงนำไปนึ่งต่อประมาณ
20-25 นาที
พอสุกแล้วแกะเนื้อปลาออกเป็นฝอย
ๆ
ส่วนเนื้อปลาฝอยไปแยกออกเป็น
2 ส่วน
ส่วนแรกนำไปผัดปลาหวาน 60 %
ส่วนที่เหลือ 40 %
นำไปทำลูกกะปิ
วิธีผัดเนื้อปลาหวานก็คล้าย
ๆ กับผัดไชโป๊หวาน |
3.
ลูกกะปิ
วิธีการแบ่งออกเป็น 3
ส่วนคือ
ส่วนแรก
จะมีปลาฝอยแบ่งเตรียมไว้
ส่วนที่สอง นำกระชาย (สด)
ประมาณครึ่งส่วน ตะไคร้ (อ่อน)
ประมาณ 1 ส่วน และ ข่า (อ่อน)
นำมาประมาณ 1 ส่วน
เอาทั้งหมดมาตำหรือปั่นรวมกันให้ละเอียด
ส่วนที่สาม
กะปิชนิดดีไม่เค็มประมาณ 1
ช้อนแกง |
กรรมวิธี
ทำลูกกะปิ
1. เริ่มเอาทั้ง 3 ส่วน
เบื้องต้นมาผัดรวมกัน
ให้เข้ากันดี
แล้วต่อจากนั้นก็แบ่งเนื้อปลาที่ผัดแล้วมาปั้นเป็นลูกกลม
ๆ ขนาดเล็กแบบลูกกลอน
รอเตรียมไปทอดในกระทะ
2. นำไข่เป็ด 1 ฟอง
ตีแล้วตามด้วยน้ำเย็น
และน้ำปูนใสเล็กน้อย
ต่อจากนั้นก็เทแป้งข้าวเจ้าและน้ำตีรวมกันทั้งหมดให้เข้ากัน
ดูให้เหนียวพอประมาณ
3.
นำลูกกะปิที่ปั้นแล้วลงไปผสมกับส่วนที่
2 (แป้งตีผสมไข่เป็ด)
4.
ควรนำเอาลูกกะปิที่ชุบแป้งและไข่
นำไปทอด ประมาณ 10-15 ลูก
เท่านั้น
เพราะถ้านำลูกกะปิไปทอดจำนวนมาก
ๆ
ลูกกะปิที่ทอดอาจติดกันได้
ควรใช้กระชอนส่ายในกระทะ
เพื่อช่วยไม่ให้ลูกกะปิทอดติดกัน
หลังจากทอดลูกกะปิเหลืองดีแล้วก็ตักลูกกะปิทอดขึ้นมาพักบนกระดาษซับมันรอให้เย็นก็นำมาใช้ได้ |
ธุรกิจ
ขายข้าวแช่ ชาวมอญ |
จุดประสงค์
เพิ่มรายได้และเพื่ออนุรักษ์อาหารโบราณ |
การลงทุน
ซื้ออุปกรณ์ เช่น หม้อ
กระทะ หม้อซึ้ง กระชอน
ผ้าขาวบาง
ฯลฯ
รายจ่ายประมาณ 1,000 บาท
ซื้อส่วนประกอบ
การทำข้าวแช่ เช่น ปลา
กระปิ น้ำตาลมะพร้าว
หรือน้ำตาลอ้อย
น้ำมันปาล์ม
รายจ่ายประมาณ 200-300 บาท
ต่อการขายระยะ 2 วัน (เสาร์-อาทิตย์) |
สถานที่
ควรหาที่ชุมชน
คนเดินไปมามาก เช่น
ตลาดซึ่งมีการเสียค่าที่สุดแท้แต่ละแห่งจะกำหนดราคา
แต่เฉพาะตลาดน้ำบางน้ำผึ้งเสียวันละ
20 บาท |
กลุ่มเป้าหมาย
ผู้สนใจอาหารท้องถิ่น
ผู้นิยมอาหารโบราณแปลก ๆ
หรือผู้คนที่ชอบทดลองชิม |
จำนวนผู้ซื้อ
วันเสาร์ ขายได้ประมาณ 70-80
ชุด ส่วนวัน อาทิตย์
ขายได้ประมาณ 100 ชุด |
รายได้
วันละประมาณ 1,500 บาท |
จุดเด่น
เป็นอาหารแปลก
ไม่ค่อยมีคนรู้จัก
ทำให้มีคนสนใจอยากลองชิม |
จุดจำกัด
สถานที่ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง
ค่อนข้างคับแคบไม่ค่อยมีที่นั่งลองชิมอาหารได้สะดวก |
ที่น่าสังเกต
วันอาทิตย์
ลูกค้าจะนิยมมาซื้อสินค้ามากทำให้มีรายได้มาก |